3 วิธีการเลือกพู่กันให้เหมาะกับเราและไม่สิ้นเปลืองด้วยตัวเอง

จริงๆแล้วการเลือกใช้พู่กัน จะขึ้นอยู่กับขนาดของภาพที่เราวาด กระดาษที่เราใช้ และที่สำคัญคือจากความชอบส่วนตัวของเราเอง ดังนั้นวิธีการที่เรียบง่ายและได้ผลที่สุด คือ ต้องลองใช้ให้เยอะจนกว่าจะเจอที่ใช่สำหรับเรา แต่เมื่อการซื้อทุกอย่างมาลองอาจทำให้สิ้นเปลืองเกินไป วันนี้ on.art.book จึงมีวิธีการเล็กๆน้อยๆในการเลือกมาฝากกันค่า

การเลือกพู่กันต้องให้เเหมาะกับงานที่เราจะวาด
  1. ดูจากภาพที่เราเคยวาดว่าเรามักจะวาดภาพขนาดไหน กระดาษใหญ่หรือเล็กแค่ไหน เช่น หากวาดบนกระดาษ A4 บ่อยๆ และวาดขนาดกลางๆ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ อาจใช้พู่กันขนาดประมาณ เบอร์ 4 สำหรับพื้นที่เล็กๆ หรือ เบอร์ 6 สำหรับพื้นที่ทั่วไป ทั้งหมดนี้เป็นขนาดที่แนะนำสำหรับการซื้อพู่กันทั่วไป เพราะแต่ละแบรนด์ทำแต่ละขนาด แต่ละเบอร์ไม่ตรงกัน ดังนั้น ให้ยึดจากสิ่งที่เราวาดบ่อยๆดีที่สุดค่า
  2. หากไม่เคยวาดเลยสักครั้ง แล้วต้องเลือกพู่กันมาใช้ ให้เลือกกระจายไว้ก่อน คือ เล็ก กลาง ใหญ่ เช่น ขนาดเล็ก เบอร์ 00,0,1 เป็นต้น ขนาดกลาง เช่น 6-10 และ ขนาดใหญ่ เช่น เบอร์ 10 ขึ้นไป ทั้งนี้ หากต้องการกำหนดเบอร์เป๊ะๆเลย สามารถกลับไปดูที่ข้อ 1 เรื่องของความชอบตั้งต้นของเราก่อนค่า
  3. หากเรามีลงคลาสเรียนวาดรูปลงสีไว้ หรือ ได้มีโอกาสลองใช้พู่กันของที่โรงเรียนหรือที่ workshop ที่เราเรียน ให้เราลองหลายๆแบบ เพื่อที่จะเลือกแบบที่ชอบก่อนซื้อไว้เป็นของตัวเอง
  4. พู่กันสีน้ำแบบมัดลวด (ส่วนใหญ่) จะมีความนุ่ม อุ้มน้ำดี เหมาะกับการลงในพื้นที่ใหญ่ เป็นอิสระ ฟุ้ง ฟู เป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง 
  5. พู่กันทั่วไปที่ไม่ใช่แบบขนนุ่มมาก เหมาะกับการลงพื้นที่ทั่วไป พื้นที่ที่เราต้องการให้อยู่ในขอบเขตชัดเจน (แต่ในกรณีนี้ ครูอาจใช้พู่กันในข้อ 4 แล้วใช้ส่วนปลายพู่กันในการลงสีในพื้นที่ที่กำหนดขอบเขตชัดเจน เนื่องจากไม่ต้องการเปลี่ยนแท่งพู่กันบ่อยๆระหว่างลงสี ขึ้นอยู่กับความถนัดด้วยนะค้า)
  6. แนะนำพู่กันที่ครูมักหยิบจับมาใช้บ่อยๆเลยนะคะ มี pyramid ทั้งแบบมัดลวดขนนุ่มและแบบธรรมดา, dainayw มัดลวดขนนุ่ม, seikai , Rosemary และที่หยิบจับมาใช้บ้างบางครั้ง คือ Renaissance และ Escoda

จะสังเกตว่ามีทั้งพู่กันแบบถูกและแพงผสมกัน เพราะครูจะเลือกจากความชอบและถนัดมือของเราเป็นหลักค่า